วันที่ประกาศผลรางวัล 16 กุมภาพันธ์ 2568

วิธีการรับเงินรางวัล

ผู้ถูกรางวัลสามารถขอรับเงินรางวัลได้ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือสาขาธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ โดยต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนหรือเอกสารแสดงตัวตนที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐพร้อมสลากที่ถูกรางวัลมาแสดง ผู้ถูกรางวัลมีระยะเวลา 2 ปี นับจากวันออกรางวัลในการขอรับเงินรางวัล หากพ้นกำหนดจะไม่สามารถขอรับเงินรางวัลได้

สำหรับรางวัลที่ 1 และรางวัลที่มีมูลค่าตั้งแต่ 20,000 บาทขึ้นไป ผู้ถูกรางวัลจะต้องนำสลากมารับรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือสาขาที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น โดยจะมีการตรวจสอบความถูกต้องของสลากอย่างละเอียดและอาจมีการหักภาษี ณ ที่จ่ายตามกฎหมายกำหนด

ข้อควรระวังเมื่อขอรับรางวัล:

• ตรวจสอบผลรางวัลจากเว็บไซต์ทางการของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเท่านั้น
• เก็บรักษาสลากให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่ฉีกขาดหรือชำรุด
• ลงลายมือชื่อกำกับด้านหลังสลากทันทีเมื่อซื้อ
• ระวังมิจฉาชีพที่อาจแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รับแลกรางวัล

เว็บไซต์ทางการของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นทางการ ท่านสามารถตรวจสอบผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลและรายละเอียดอื่นๆ ได้ที่เว็บไซต์ทางการของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

เว็บไซต์ทางการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล: www.glo.or.th

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมาย อาทิ ปฏิทินการออกรางวัล วิธีการตรวจสอบสลากปลอม ช่องทางการร้องเรียนกรณีพบการจำหน่ายสลากเกินราคา และข่าวประชาสัมพันธ์ต่างๆ ขอให้ท่านใช้ข้อมูลจากเว็บไซต์ทางการเพื่อป้องกันการถูกหลอกลวงและได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง

การจัดสรรรายได้จากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล

รายได้จากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลมีการจัดสรรอย่างเป็นระบบเพื่อประโยชน์ของสังคมไทย โดยส่วนหนึ่งจัดสรรเป็นเงินรางวัล อีกส่วนหนึ่งนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินและกองทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อพัฒนาสังคม รายได้ดังกล่าวถูกนำไปใช้สนับสนุนโครงการเพื่อสาธารณประโยชน์มากมาย รวมถึงทุนการศึกษา การพัฒนาสาธารณูปโภค และโครงการสาธารณสุข

ตัวอย่างโครงการที่ได้รับการสนับสนุน:

• โครงการสร้างอาคารผู้ป่วยโรคมะเร็ง: สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้จัดสรรเงินเพื่อก่อสร้างอาคารผู้ป่วยโรคมะเร็งในโรงพยาบาลของรัฐทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งและลดความแออัดของผู้ป่วย
• โครงการมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก: สนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติต่างๆ ทั่วประเทศ เช่น อุทกภัย วาตภัย และภัยแล้ง โดยมีการจัดสรรทุนทรัพย์สำหรับการฟื้นฟูและบรรเทาความเดือดร้อน
• โครงการทุนการศึกษาเพื่อเยาวชน: จัดสรรทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนที่มีผลการเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ทั่วประเทศ ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาจนถึงอุดมศึกษา

นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งกองทุนสวัสดิการสังคมและกองทุนส่งเสริมกีฬาแห่งชาติที่ได้รับการสนับสนุนจากรายได้สลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งมีส่วนสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทย